บ่ายวันหนึ่งกับอากาศแจ่มใส
มีเด็กชายตัวน้อยวัยสิบห้าปีเศษหกเดือนคนนึงกำลังจูงสุนัขสองสายพันธุ์ที่ขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน
สองมือที่จับกับสายจูงยาวราวหนึ่งร้อยห้าสิบเซนต์
ด้านซ้ายเป็นไซบีเรียนฮัสกี้ขนสีเทาดวงตาสีฟ้าอายุสองปี
ใบหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไรซึ่งเป็นปกติของ ‘ฮันบิน’ อยู่แล้ว ใช่เลยล่ะ!
เจ้าของชื่อก็คือไซบีเรียนตัวซ้ายมือเขานี่ไงล่ะ
ส่วนทางด้านขวาเป็นปอมเมอเรเนียนขนสีส้มค่อนไปทางทองไซส์มินิอายุสี่ปีถูกจับให้สวมชุดมิกกี้เมาส์สำหรับลูกสุนัขตัวเล็กอย่างพอดีและเป็นที่พอใจของเจ้าของอย่างมาก
“จินฮวาน อย่าวิ่งเร็วสิ”
โอเค
ชื่อของหมาไซส์มินิตัวนี้คือ จินฮวาน
มนุษย์หนึ่งคนที่ปากคาบลิสต์ซื้อของในร้านสะดวกจากพี่ชายที่นอนเล่นเกมสบายใจอยู่ที่บ้านพร้อมกับสุนัขแสนรู้(?)อีกสองตัวพร้อมที่จะไปซื้อของแล้ว!
อ้อ! อีกอย่างนึง
ผมชื่อ‘โอบัง’ฮะ!
“ฮันบิน จินฮวาน
หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้ ไม่เหนื่อยบ้างรึไงหมาพวกนี้” ก็ได้แต่บ่นเท่านั้นแหละ
หมาจะพูดกับคนรู้เรื่องได้ยังไง
บ๊อก! บ๊อก! บ๊อก!
เสียงเห่าเล็กๆ(แต่ดัง)มาจากจินฮวานบริเวณหลังพุ่มไม้สูงประมาณเอว
ผมเดินเข้าไปดูอย่างระมัดระวังก็พบกับลูกหมาตัวเล็กกำลังนอนขดเป็นก้อนเพราะความหนาวดูจากร่างกายที่ชุ่มไปด้วยน้ำ
ขาขวาด้านหลังมีแผลที่ยังดูสดอยู่ด้วย ด้วยความเคยชินผมเลยเดินเข้าไปใกล้เพื่อดูสภาพของมัน
แต่กลับได้รับเสียงขู่เล็กมาเป็นของขวัญแทน - - สายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างที่สะท้อนแสงออกมาจากคอ
ปลอกคอขนาดพอเหมาะพร้อมจี้ห้อยสลักชื่อไว้อย่างดี
อา
หมาคนรวยล่ะสิท่า
‘จียง’
“จียง?”
สาบานว่านี่ชื่อหมา ไม่ใช่ชื่อคนแน่นะ? ช่างสรรหามาตั้งจริงๆ
ก็ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าตั้งชื่อพวกเราว่าอะไร
เจ้านายคนโง่ - - <--- ฮันบิน+จินฮวาน
“นี่ จียงอา
ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก ให้ฉันอุ้มเถอะนะ” ผมปล่อยสายจูงที่ติดมือลง
ค่อยๆย่องเข้าไปหาจียงช้าๆเพื่อไม่ให้มันหวาดกลัว
ลูกหมาตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาผมด้วยขาที่เป็นแผลทำให้มันเดินกะเผลกนิดหน่อย
ผมจัดการอุ้มมันไว้ในอ้อมกอดอย่างไม่กลัวเลอะ เท้าขนาดเก้านิ้วทั้งสองหันกลับไปยังที่มีสุนัขสองตัวอยู่เมื่อกี้
“ฮันบิน จินฮวานนา ไปกั— เฮ้ย!”
หายไปแล้ว
ฮันบินกับจินฮวานหายไปแล้ว!
“ซวยแล้วโอบัง”
ผมพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองลูกหมาเจ้าปัญหาในอ้อมกอดที่มองกลับมาตาแป๋ว
สองเท้ายังวิ่งวุ่นหาสนุกสองตัวไม่หยุด
ขาก็วิ่ง ตาก็มองหา หมาก็ต้องอุ้ม เกิดมาสิบห้าปีโอบังยังไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลยครับ!!
อย่าให้เจอนะ
พ่อจะจับขังให้อยู่ในกรงเดียวกันสามวันสองคืนเลยคอยดูสิ!!!
“ฮันบิน!! จินฮวาน!!”
เพิ่มมาอีกสเตปโดยการแหกปากร้องหาหมาทั้งสอง ฮันบินน่ะไม่เท่าไหร่ จินฮวานนี่สิ
ตัวก็เล็กแล้วยังจะหายไปอีก จะตามหาเจอง่ายๆได้ยังไง
ตุบ!
“โอ๊ย! ขอโทษฮะ”
ทั้งที่ตัวเองล้มไปกองอยู่กับพื้นพร้อมลูกหมาแต่ก็ยังเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษออกมาก่อน
“ไม่เป็นไรครับ
ลุกไหวมั้ยครับ? ให้พี่ช่วยมั้ย?” เด็กชายส่ายหัวไปมารัวๆเป็นการปฏิเสธพร้อมกับลุกขึ้นมายืนประชันหน้า
ไม่สิ ประชันกับอกหนาๆต่างหาก ตอนเด็กน่าจะเชื่อแม่นะว่ากินนมแล้วจะสูง
ถึงได้ตัวเตียกว่าใครเพื่อนอยู่นี่ไงเล่า “พี่ขอโทษนะครับ เจ็บรึเปล่า อ้ะ! นั่นจียงของผมรึเปล่า”
พี่ชายคนตรงหน้าพูดออกมาอยากตกใจทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง
ผิวสีขาวกับริมฝีปากสีอมชมพู ขัดกับใบหน้าโหดและคำพูดหวานๆเมื่อครู่มากๆเลย
โดยรวมแล้วคือหล่อมาก(ถ้าเทียบกับคนทั่วไปรวมถึงผมด้วย) “ข..ของพี่หรอฮะ
ผมกำลังตามหาเจ้าของอยู่พอดีเลย น..นี่ฮะ”
ฉ่า~~~
อา เสียงแบบนี้..รู้ตัวได้ทันทีเลยว่าตอนนี้ผมคงหน้าแดงมากแน่ๆเลย
“หน้าแดงใหญ่เลย
ไม่สบายหรอ?”
“เปล่าฮะ เปล่า”
“อุ้มไว้ก่อนก็ได้นะจียงน่ะ
มือพี่ตอนนี้ไม่ว่างน่ะสิ” ไม่ทันได้สังเกตมือพี่ชายคนตรงหน้าเลย
ผมมองต่ำลงไปเจอกับสายจูงสีคุ้นเคยและด้านหลังก็มีหมาที่คุ้นเคยอีกเหมือนกันกำลังยิ้มเหมือนหมาบ้า(?)อยู่ด้านหลังของพี่ชาย
“อ้าว นั่นของผมนี่ฮะ ฮันบิน! จินฮวาน! มาให้ตีเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ผมตรงดิ่งไปยังหลังของพี่ชายเป้าหมายคือหมาจอมดื้อทั้งสองตัวแต่พวกมันกลับเบียดตัวชิดกับพี่ชายเข้าไปอีกพร้อมกับทำหน้าหงอยๆปิดท้าย
และเสียงหัวเราะเบาๆจากพี่ชายตัวโตก็หลุดออกมา
เหอะ! หมาสตรอเบอรี่!!
“พี่เอาเชือกใส่ให้แขนให้ผมได้มั้ยฮะ”
ผมพูดขึ้นก่อนจะอุ้มจียงไว้ด้วยมือข้างเดียว จียงน่ะตัวเล็กมาก
อายุของไม่กี่สัปดาห์เองล่ะมั้ง และพี่ชายตัวก็สอดห่วงด้านที่จับใส่ที่แขนของผมไว้
แล้วรับจียงไปอุ้มแล้วส่งสายจูงอีกเส้นมาให้ผม
อา
ถึงเวลาไปซื้อของซะที
“ผมขอตัวก่อนนะฮะ
ขอบคุณที่ช่วยจับหมาของผมไว้นะฮะ”
“ไม่เป็นไรหรอก
เจ้าพวกนี้มันวิ่งมาหาพี่เองแถมยังคาบมือพี่มาหานายนอีกต่างหาก เก่งนะเนี่ย”
ว่าแล้วพี่ชายตัวโตก็เอื้อมมือมาลูบหัวฮันบินหนึ่งทีแล้วย่อตัวลงไปจุ้บจินฮวานอีกด้วย
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
พอพี่ตัวโตผละออกมาจากจินฮวานฮันบินก็ให้ของขวัญโดยการเห่าใส่พี่ตัวโตชุดใหญ่ทันทีพร้อมกับสีหน้าแสดงอาการไม่พอใจ
“สงสัยจะหวงจินฮวานน่ะฮะ
ขอโทษด้วยนะฮะ” ผมโค้งให้เขา
“ไม่เป็นไรหรอก
ยังก็ขอบคุณที่ช่วยจียงไว้นะ”
“ยินดีเลยฮะ
ขอตัวก่อนนะฮะ ไปกันเถอะฮันบิน จินฮวาน”
ผมยิ้มใหพี่ตัวโตเป็นการปิดท้ายแล้วหันไปพูดประโยคหลังกับจอมซนอีกสองตัวแทน ผมหมุนตัวกลับพร้อมที่เดินต่อไปยังร้านสะดวกซื้อแต่กลับโดนรั้งไว้ด้วยเสียงอบอุ่นเสียก่อน
“นี่นาย เดี๋ยวสิ” ผมหันกลับมายังพี่ชายตัวโตอีกครั้ง
“ฮะ?”
“เราจะได้เจอกันอีกมั้ย?”
ถามอะไรของพี่เนี่ย??
“ค..ครับ?”
“นายมาเดินเล่นที่สวนนี่บ่อยรึเปล่า?”
“ทุกเย็นเลยครับ”
“คนเดียวหรอ?”
“ก็มีหมาอีกสองตั—”
“อยากมีคนมาเดินด้วยมั้ย?”
“ฮ..ฮะ?”
“พี่พาจียงมาเดินกับฮันบินแล้วก็จินฮวานได้มั้ย”
อ๋อ สงสัยอยากเล่นกับสองป่วนนี่ล่ะสิ เสน่ห์แรงนะเรา
“อ๋อ ได้สิฮะ ก็เดินกันสองตัวตลอดคงอยากได้เพื่อน
เนอะ?”
บ๊อก! โฮ่ง!
“งั้นพรุ่งนี้พี่มารอนะที่นี่นะ”
ว่าแล้วพี่ชายก็ยิ้มจนตากลมตัวโตเหลือเพียงขีดเส้นตรงบางๆ
น่ารักเป็นบ้าเลย
ฮืออ ดีต่อใจโอบังจังเลย T T
“พี่ชื่อกาโฮนะ
นายชื่ออะไร?”
“โอบังฮะ ผมชื่อโอบัง”
“เรียกว่าตัวเล็กได้มั้ยล่ะ
นายตัวเล็กอ่ะ”
“อ่า..”
“รีบไปซื้อของเถอะ
พรุ่งนี้พี่รอที่นี่นะครับตัวเล็ก” พี่กาโฮยิ่นมือใหญ่มายีหัวผมสองสามทีแล้วก็เดินจากไป
จากไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมยังยืนอยู่เดิมอยู่เลย
เจ้านายคงเป็นเอามากเนอะพี่จินฮวาน
<-- ฮันบิน
ตามนั้นแหละฮันบิน <-- จินฮวาน
โอบังจะฟ้องพี่ชานอูโทษฐานมาทำให้โอบังเขินขนาดนี้
ฮือออออ
END.
สกรีมเยอะๆที่แท็ก #เดินเล่นกับโฮบัง นะจ้ะ ต้องการกำลังใจเล็กๆน้อยๆจากฟิควูบนะจ้ะทุกคน // โปรยจูบ~~