วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

#เรียนเต้นกับฮันบิน

ซ้อมเต้นกับฮันบิน




“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด ย่าห์! น้องตัวเล็กคนนั้นน่ะ เต้นคร่อมจังหวะมาสามรอบแล้วนะ เดี๋ยวซ้อมเสร็จอย่าเพิ่งกลับนะ” ไร้ซึ่งการตอบกลับร่างเล็กที่กำลังยืนค้ำเข่าตัวเองพ่นลมหายใจออกมายาวๆบรรเทาอาการเหนื่อย ใบหน้าขึ้นสีเลือดฝาดเหงื่อพรายผุดตามโครงหน้าคล้ายผู้หญิงหรือเอาจริงๆน่าจะสวยกว่าผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ ปากเล็กสีชมพูที่ยู่ลงพ่นลมหายใจมันดูน่ารักไม่หยอก ถึงจะน่ารักยังไงก็ตามถ้ายังเต้นไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์กับทีมอยู่ดี

เวลาผ่านไปหลายนาทีตั้งแต่การฝึกซ้อมจบลง ร่างบางนั่งพิงกระจกยกขวดน้ำที่มีของเหลวรสหวานด้านในไม่ถึงครึ่งดื่ม สายตาจดจ้องไปยังประตูห้องซ้อมอย่างเหม่อลอยรอครูฝึกที่บอกให้เขาอยู่ต่อทั้งที่คนอื่นกลับไปหมดแล้วและตอนนี้ก็ดึกมาแล้วด้วย

9:16 P.M

จินฮวานหาวแล้วหาวอีกแถมยังสัปผงกเป็นรอบที่ร้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าครูฝึกจะมาตามนัดสักที คนตัวเล็กมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนฝาผนังอย่างชั่งใจก่อนจะลุกขึ้นไปยังล็อคเกอร์ตัวเองหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเพื่อที่จะผลัดเปลี่ยน

ความจริงมันก็มีห้องให้เปลี่ยนอยู่หรอก แต่ดันอยู่ไกลอีกอย่างห้องนี้มีจินฮวานคนเดียว คงไม่เป็นปัญหาอะไรมาก อย่างมากก็แค่เห็นตัวเองในกระจก

สองแขนไขว้หากันที่ด้านหน้าสองมือจับปลายเสื้อเสื้อกล้ามสีเทาที่ก่อนหน้านี้มันชุ่มไปด้วยเหงื่อ  แต่ตอนนี้มันได้แห้งไปแล้วและส่งกลิ่นที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่แทน

จินฮวานถอดเสื้อออกไปแล้วและเป้าหมายต่อไปคือกางเกง...

“จินฮวานคนไหนหรอครั-”

“เห้ย!

จินฮวานจ้องมองผู้มาใหม่ที่พรวดพราดเข้ามาโดยไม่เคาะประตูแถมยังเห็นเขาในสภาพ...เกือบเปลือยอีก (หายไปแค่เสื้อเองนะจินฮวาน - -) ร่างบางยกเสื้อที่เพิ่งถอดได้ไม่นานปิดร่างกายของตัวเองไว้รู้ทั้งรู้ว่าปิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อย่างนอยก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้ปิดล่ะว่ะ

“น..นายเป็นใคร?!” ร่างเล็กทำใจกล้าตะโกนถามผู้ชายที่ยืนจับลูกบิดประตูพร้อมกับปากที่อ้าค้างสายตาจับจ้องมายังร่างกายเขาอย่างเปิดเผย

หมอนี่.. - -

“ข..ขาว”

“ห้ะ?”

“น..เนียน ไม่ใช่! ผมชื่อคิมฮันบินที่ครูฝึกให้มาสอนคนที่ชื่อจินฮวาน นายใช่จินฮวานหรือเปล่า?” ร่างสูงที่ดูเหมือนว่าสติจะกลับมาแล้วแนะนำตัวเองพร้อมกับถามหาคนที่ต้องมาสอน

“ฉ..ฉันเอง จินฮวาน”

“งั้นมาเริ่มกันเลย ดึกจะตายอยู่แล้ว ฉันอยากกลับบ้าน”

“หันหน้าไปทางอื่น! เดี๋ยวนี้!” ร่างเล็กแหวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มือเล็กชี้มาทางคิมฮันบินที่ได้แต่ยืนเอ๋ออยู่ตรงประตู “ทำไม?”

“ฉันจะใส่เสื้อ ฉันคิดว่าฉันอายุมากกว่านาย เรียกฉันว่าพี่ด้วย”

“ก็ใส่ไปดิอายอะไรล่ะ ผมอายุ 20

“ฉันไม่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่น และฉัน 22

“จะทำอะไรก็ทำ เสียเวลามามากแล้วครับพี่จินฮวาน” ร่างสูงพูดพร้อมกับหันหลังให้กับร่างเล็ก ตาคมที่กำลังจะปิดลงเพื่อพักสายตาเหลือบไปเห็นร่างสะท้อนอีกคนในกระจก กายขาวที่มีกล้ามเนื้อให้เห็นน้อยๆ ปากบางสีลูกพีช ยอดอกสีชมพูน่ากิ—

แปะๆ!

ฮันบินตบหน้าตัวเองหลายครั้งเพื่อไล่ความคิดอกุศลออกไปจากหัว

มาสอนเต้นเว้ยฮันบิน มึงมาสอนเต้น

“เสร็จแล้ว”

“โอเค งั้นพี่ลองเต้นให้ผมดูก่อน ผมจะนั่งดู” ร่างสูงพูดจบก็ลงไปนั่งพิงผนังตำแหน่งเดียวกับที่ร่างบางนั่งเมื่อครู่ สายตาจับจ้องไปยังร่างเล็กที่เดินไปเปิดเพลง เดินกลับมาพร้อมกับวอร์มร่างกายเล็กน้อยก่อนจะเริ่มออกลวดลายการเต้นโดยมีสายตาของฮันบินจับจ้องทุกท่วงท่าตั้งแต่ต้นจนจบ และเมื่อคนตรงหน้าเต้นจบความครูเสือก็เข้าสิงทันที

“ตรงนี้พี่เต้นไม่ค่อยแข็งแรงแล้วก็ช่วงท้ายพี่คร่อมจังหวะด้วย” ปัญหาเดียวกับที่ครูฝึกบอกไว้เสมอจินฮวานยังแก้ไขไม่ได้มาหลายวันแล้ว พอมาวันนี้เต้นให้เด็กนี่ดูก็ยังผิดพลาดเหมือนเดิมอีก

“ลองเต้นใหม่สิครับ ตรงท่อนนี้” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่เข้ามายังโรงเรียนสอนเต้นแห่งนี้ โรงเรียนสอนเต้นที่ว่าฝึกหนักที่สุด ฝึกโหดที่สุด ครูฝึกไม่เคยมีความปราณี ไม่เคยพูดจาอ่อนโยนกับใครคนใดทั้งนั้น ซึ่งจินฮวานอยู่กับที่นี่มาสองปีกว่าแล้วถึงงอย่างนั้นก็ยังไม่ชินอยู่ดี การที่ได้ยินครูสอนเต้น(จำเป็น)พูดจาอ่อนโยนแบบนี้มันก็เรียกรอยยิ้มจากจินฮวานได้ไม่ยากเหมือนกัน

“พี่ครับ ได้ยินผมมั้ย ยืนยิ้มทำไมคนเดียว เป็นบ้าหรอครับ”

“ห้ะ ไม่ใช่สักหน่อย เริ่มแล้วนะ” การวาดท่วงท่าของจินฮวานเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ถูกหยุดลงด้วยเสียงดุๆของอีกฝ่ายพร้อมกับเพลงที่หยุดลง

“ยกขาขึ้นสูงๆอีกนิดสิครับ”

“อ่า..”

“ลองดูนะ ห้า หก เจ็ด แปด จินฮวาน! ผมบอกให้ยกขาขึ้นสูงอีกนิด นี่มันตำแหน่งเดียวกับเมื่อกี้เลยนะ เอาใหม่!


“แขนน่ะชูขึ้นตึงๆ ไม่ใช่ทำเหมือนนักเรียนโดนอาจารย์ทำโทษให้ยืดชูแขนหน้าห้อง!



“จินฮวาน!


“จินฮวาน!


และอีกสารพัดจะจินฮวาน...

เอาเป็นว่าแค่เวลาสามชั่วโมงผมถูกเรียกว่าจินฮวานไม่รู้กี่ครั้งแล้วเหมือนกัน


12.26 A.M


“ฮันบิน พี่ขอพักก่อนได้มั้ย ขาพี่ล้าไปหมดแล้ว”

“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมก็ตวาดชื่อพี่ไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วเหมือนกัน” น้ำเสียงที่เริ่มติดรำคาญนิดๆเอ่ยออกมาแทบจะทำให้ร่างบางร้องไห้ออกมาซะให้ได้ เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้ฮันบินโมโหขนาดนั้น ฮันบินเหลือบมองอีกคนที่เดินคอตกไปหยิบขวดน้ำที่ยังไม่ได้แกะมาสองขวดก่อนจะเดินกลับมายื่นให้เขาหนึ่งขวด ใบหน้าหวานก้มลงต่ำจนแทบจะชิดอก มือเล็กที่ยื่นขวดน้ำออกมาอย่างสั่นๆทำให้ฮันบินอดจะหัวเราะไม่ได้ มือหนาส่งไปขยี้ผมสีส้มทองเบาๆแต่ก็ทำให้ฟูไม่เป็นทรงเหมือนเดิมได้

“ไม่ต้องกลัวผมขนาดนั้นก็ได้ ผมก็เป็นแบบนี้แหละเวลาจริงจัง ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกก่อน”

“อืม”

“มาซ้อมกันต่อเถอะ ไม่งั้นพี่จะไม่ได้นอนเอานะ”


ไม่อยากจะพูดเลยว่าเอาจริงๆฮันบินกำลังคิดลามกกับพี่ตัวเล็กคนนี้อยู่




การซ้อมความผิดพลาดของจินฮวานจุดสุดท้ายก็เริ่มขึ้น

“จินฮวาน! ไม่ใช่แบบนั้น”

“ก..ก็ถูกแล้วนี่นา พี่ไม่ได้ทำผิดสักหน่อย” คนตัวเล็กได้แต่ส่งคำตอบกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา เวลาแบบนี้ฮันบินดูน่ากลัวเหลือเกิน “ใช่ พี่เต้นไม่ผิดหรอก แต่มันคนละท่อนกัน ท่อนนี้พี่ต้องเต้นอีกแบบนึงไม่ใช่หรอครับ”

“พ..พี่ขอโทษ ก็พี่ลืมน่ะ เอาใหม่เนอะ”

โกหก จินฮวานกำลังโกหกฮันบิน เขาเต้นท่านั้นไม่ได้เลยต่างหาก

“...”

ร่างบางเริ่มออกวาดลวดลายอีกครั้งอย่างเก้ๆกังๆจนอีกฝ่ายทนไม่ไหว กดหยุเพลงแล้วตวาดออกมาดังลั่น

“พี่จินฮวาน! พี่เป็นอะไร พี่บอกมาสิ ผมอยู่กับพี่ไม่ได้ทั้งคืนหรอกนะ”

“โอ๊ย! ปล่อยพี่นะฮันบิน พี่เจ็บ” ร่างเล็กร้องโอดครวญออกมาเมื่อข้อมือด้านซ้ายถูกคนตัวสูงที่ลุกขึ้นคว้ามาบีบแน่นจนแทบกระแตกเป็นเสี่ยงพร้อมกับใบหน้าดุร้ายที่จินฮวานไม่ชอบมัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจินฮวานกลัวเด็กคนตรงหน้าเอามากๆ

“ทำไมพี่ไม่เต้น?” น้ำเสียงเย็นยิ่งกว่าไอศกรีมถูกส่งออกพร้อมกับแรงบีบรัดเพิ่มที่ข้อมือเล็ก

“พ..พี่ พี่...”

“คิมจินฮวาน!!

“พี่เต้นไม่ได้!!!” ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างลืมตัว น้ำตาจากมาจากไหนแม้แต่จินฮวานเองก็ยังไม่รู้พากันมาคลอที่เบ้าตาทั้งสองข้างจนพร่าเบลอ จินฮวานไม่อยากบอกเพราะกลัวฮันบินจะรำคาญเขา แค่นี้ก็กลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้ว

ไม่ใช่ฮันบินที่อยากกลับบ้าน เขาก็อยากกลับเหมือนกัน

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม หยุดนะ! อย่าแม้แต่จะให้มันไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว ไม่งั้นผมเอาพี่ตายแน่”

“...” ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอพูดแรงกับคนตรงหน้าเกินไป ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่ครูฝึกอายุน้อยจะถอนหายใจออกมา

“หยุดร้องนะครับ เดี๋ยวจะผมจะสอนพี่เองนะ เรื่องเมื่อกี้ผมขอโทษด้วย”

“มาเริ่มกันเลยนะครับ”



เปิดอันนี้ด้วยนะคะ จิ้มๆ



เมื่อเพลงเริ่มต้นขึ้น ฮันบินเต้นตามเพลงได้ดีอย่างไม่บกพร่อง จินฮวานไม่ได้เต้นตามไปด้วยมีแค่ขยับไปตามตำแหน่งที่จำได้เท่านั้น เนื่องจากมันเป็นเพลงคู่และเขาต้องเต้นกับผู้หญิง แต่ฮันบินก็แย่งหน้าที่เขาเสียแล้ว ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อยังเต้นไม่ได้ก็รับหน้าที่เป็นผู้หญิงไปก่อนแล้วกัน

เพลงที่เล่นมาเรื่อยๆจนถึงท่อนๆนึงที่ทั้งคู่ต้องลงไปนอนแล้ว ทั้งคู่หันหน้ามามองกันตามท่าเต้นที่ถูกกำหนดไว้ สบตาเพียงชั่วครู่ ร่างสูงพลิกตัวขึ้นคร่อมจินฮวานไว้เช่นเดียวกับจินฮวานที่ยกมือนุ่มขึ้นลูบไล้ตามโครงหน้าของร่างสูง สายตาสองคู่มองดวงตาของกันและกันอยู่นานจนเพลงที่เปิดค้างไว้ใกล้จะจบ

และมันจบลงพร้อมกับความอดทนของคิมฮันบินที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน

“อื้อ”


ร่างหนาก้มลงป้อนจูบลงที่ริมฝีปากบางสีชมพูนี่เขาเล็งมาตั้งแต่เจอครั้งแรก มือซนๆเริ่มสัมผัสไปตามส่วนต่างๆของกายเล็กสะเปะสะปะ คนตัวเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจ ลิ้นร้อนสอดเข้ามาทักทายเยลลี่นุ่มๆในโพรงปาก กวาดชิมความหวานตักตวงความหวานจนอีกคนแทบจะอยากละลายไปกับพื้น จินฮวานไม่รู้ตัวเองเลยว่าเผลอเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของคนตรงหน้าตอนไหน รู้ตัวอีกทีเสื้อกล้ามสีเทาก็ถูกโยนไปที่ไหนสักที่ของห้องแล้ว “ทำไมพี่ถึงได้หวานขนาดนี้นะ”

“อ๊ะ” สัมผัสเปียกชื้นที่ยอดอกทำให้จินฮวานครางออกมาเบาๆ ทั้งเลีย ดูดดุน ขบกัด สัมผัสปะหลาดที่จินฮวานไม่เคยได้รับมาก่อนทำให้ตอบสนองได้ง่าย ยอดอกแข็งชูชันสู้ลิ้นร้อนๆพร้อมกับอารมณ์มากมายที่ตีกันในท้องของจินฮวานตอนนี้ สมองของคนตัวเล็กขาวโพลนไปหมด มันพร่าเบลอ อยากจะชัตดาวน์ตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำไม่ได้

“ม..ไม่ได้นะ อ๊า ฮันบิน” นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงขาสั้นสีดำลงพร้อมกันชั้นในสีขาว จะห้ามคนด้านบนก็ไม่ทันแล้ว ส่วนที่อ่อนไหวบัดนี้กลับแข็งขืน มือหนากอบกุมส่วนนั้นไว้รูดขึ้นลง จินฮวานกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ความรู้สึดอึดอัดที่จินฮวานพร้อมจะปลดปล่อยออกมา ฮันบินชัดรูดได้ไม่นานน้ำคาวสีขุ่นก็พุ่งพรวดออกมาเปรอะมือ เขายกมือขึ้นมาดูดนิ้วตวัดลิ้นเลียชิมอยากไม่รังเกียจ “ผมขอนะครับพี่จินฮวาน”

ไวเท่าความคิดแกนนิ้วเรียวถูกส่งเข้าที่ช่องทางหลังโดยไม่ทันตั้งตัว เสียงหวีดร้องของจินฮวานมันไม้ได้ดังจนแสบแก้วหู ฮันบินคิดว่ามันน่าฟังกว่าเพลงแรปไหนๆในเพลย์ลิสต์บนมือถือเขาซะอีก ร่างกายตอบสนองนิ้วเย็นด้วยการตอดรัดเป็นจังหวะตุบๆ ร่างบางหอบหายใจถี่อกบางกระเพื่อมขึ้นลงราวกับคนที่วิ่งเสร็จใหม่ๆทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย นิ้วที่สองค่อยสอดเข้าไปทีละนิดจนสุด ทว่าในคราวนี้กลับไม่ใช่เสียงหวีดร้อง กลับเป็นเสียงครางเบาจากร่างบางแทน ฮันบินขยับนิ้วเข้าออกอยู่สักพักก็ใส่นิ้วสุดท้ายเข้าไปทักทายร่างกายจินฮวาน

เหมือนว่าการขยับเข้าออกนิ้วของฮันบินจะทำให้จินฮวานมีความสุขไม่น้อย วัดได้จากเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาอย่างเปิดเผยและรงตอดรัดนิ้วทั้งสามที่ช่องทางหลัง ครูฝึกอายุน้อยถอนนิ้วออก ร่นกางเกงวอร์มตัวเองลงพร้อมชั้นใน ส่วนอ่อนไหวขนาดราว นิ้วเด้งออกมา ฮันบินจ่อส่วนปลายไว้ที่ช่องทางหลัง มือหนาจับมือเล็กมาวางไว้บนไหล่พร้อมกับกดจูบลงเบาๆที่ปากนุ่มๆ

“ผมไม่สนใจว่าพี่จะรู้สึกยังไง แต่ช่วยระบายมันออกมาที่แผ่นหลังผมนะ ที่นี่ไม่ใช่เตียงไม่มีผ้าปูที่นอนให้พี่กำหรอก” ร่างสูงพูดติดตลกเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆดันท่อนเอ็นเข้าไป เพียงแค่ส่วนหัวจินฮวานก็กรีดร้องออกมาจนกล่องเสียงแทบจะแตก แรงจิกที่ไหล่แกร่งจนเลือดซิบทำให้เขารับรู้ได้ว่าครั้งแรกคงเจ็บไม่เบา เมื่ออีกคนเริ่มผ่อนคลายลงเขาค่อยๆดันเข้าไปจนสุดแกน หมุนควงหาจุดสัมผัสที่ทำให้พี่ตัวเล็กรู้อยู่สักพัก คนใต้ร่างก็ร้องครางออกมา ฮันขยับเอวเข้าออกจงใจกระแทกย้ำอยู่ที่จุดกระสัน ฮันบินรู้สึกได้ถึงความแสบที่แผ่นหลังหลายจุด ให้ทายว่าคนข้างล่างคงข่วนหลังเขาเป็นลูกแมวแน่ๆ

“อ..อ๊ะ ฮันบิน”

มือหนากอบกุมส่วนอ่อนไหวร่างเล็กอีกครั้ง รูดขึ้นลงสองสามทีก็กลับมาแข็งขืนเหมือนเดิม จังหวะการรูดเป็นจังหวะเดียวกับการขยับเข้าออกของท่อนเอ็น เสียงเนื้อกระทบกันถี่ๆดังระงมทั่วทั้งห้องจนแทบจะกลบเสียงเพลง บดจูบลงไปปลอบเด็กน้อยไร้ประสบการณ์ซึ่งเด็กน้อยก็ตอบรับได้เป็นอย่างดี ฮันบินถอนแกนออกมาเกือบหลุดแล้วกระแทกเข้าที่จุดกระสันแรงๆเป็นรางวัลให้กับเด็กดี ร่างสูงจูบซับเหงื่อพรายตามใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา

“อืออ ฮันบินนา”

“อีกนิดเดียวนะครับ”

ร่างสูงกระแทกสะโพกถี่ขึ้นเมื่อความอึดอัดไหลมากองอยู่ที่ส่วนปลาย กระแทกเข้าไปครั้งสุดท้ายพร้อมกับน้ำคาวที่ถูกปล่อยมาเปรอะมือ สัมผัสอุ่นที่ช่องทางหลังและน้ำกามจากกิจกรรมเข้าจังหวะไหลย้อนออกมาตามซอกขาเรียวเป็นทางยาวพร้อมกับเลือดสีสดที่ไหลออกมาพร้อมๆกัน

“ขอโทษนะครับ พี่เจ็บรึเปล่า”

“อืออ ฮันบิน พี่อยากกลับบ้านแล้ว” คนตัวเล็กพูดออกมาได้ไม่เต็มแรงสักเท่าไหร่เพราะพลังงานหมดไปกับกิจกรรมเมื่อครู่แถมมื้อเย็นก็ยังไม่ได้แตะสักนิดมีเพียงน้ำเปล่าที่เพิ่มพลีงให้เขาได้จนฮันบินมาถึง

“ไปอยู่ที่ห้องผมก่อนได้มั้ย กลับไปตอนนี้พี่คงไม่ไหวหรอก”

“อือ ก็ได้” ไม่รู้อะไรดลใจให้จินฮวานพูดออกไปแบบนั้น สติที่เลอะเลือนหรือเพราะความเหนื่อยที่โถมเข้าใส่เลยตกปากรับคำไปส่งๆเพราะเขาอยากพักผ่อนเต็มที

“พี่จินฮวานครับ”

“หือ?”

“ผมจีบพี่ได้มั้ย”

“ไม่ทันแล้วมั้ง เด็กบ้า”

“น่ารักอ่ะ”

“ฮันบินอา พี่ง่วงแล้วนะ”

“โอเคครับๆ ผมก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”

หลังจากนั้นฮันบินก็รับผิดชอบเก็บกวาดทุกกอย่างภายในห้องซ้อมรวมถึงหลักฐานของทั้งสองคนด้วย แถมยังใจดีอาบน้ำให้จินฮวานแล้วพาขี่หลังกลับห้อง(ของเขา)อีกต่างหาก







วันต่อมา

“เงียบๆหน่อย วันนี้มีครูฝึกคนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก เขาจะมาคุมพวกเธอแทนฉันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” สิ้นเสียงครูฝึกสุดโหดใบหน้ายิ้มแย้มจากนักเรียนหลากอายุก็ปรากฎขึ้น ครูฝึกได้แต่ส่ายหัวกับความดีใจออกนอกหน้าของพวกเด็กๆ “เข้ามาได้”

“สวัสดีครับ ผมคิมฮันบิน จะมาเป็นครูฝึกให้พวกคุณตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฝากตัวด้วยครับ” เสียงโห่ร้องของนักเรียนชายดังขึ้นผิดกับนักเรียนหญิงที่กรี๊ดกร๊าดออกมากันเบาๆเพราะความหล่อของครูฝึก เว้นแต่มีนักเรียนหนึ่งคนมุมห้องที่สภาพไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ ผมยุ่งชี้ฟู ดวงตาหมองเคล้า ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนป่วย “คิมจินฮวาน หลังเลิกเรียนรอพบผมด้วยนะครับ” สิ้นเสียงครูฝึกหน้าใหม่ทุกคนหันมามองจินฮวานที่นั่งมุมห้องเป็นตาเดียวกัน







ฉิบหายอีกแล้ว คิมจินฮวาน


END.




สกรีมที่แท็ก #เรียนเต้นกับฮันบิน นะคะ ไปสกรีมกันเยอะๆนะคะ ขาดกำลังใจมากเลย -3- มีคำผิดทักมาเลยยยย ไม่ต้องกลัวน้าา

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

#ติวพละกับจุนฮเว

#ติวพละกับจุนฮเว

ปี๊ด!

สิ้นเสียงนกหวีดที่มาจากลมปากของกรรมการขอบสระว่ายน้ำ ผู้เข้าแข่งขันกระโดดลงสระว่ายน้ำแล้วเริ่มออกออกความเร็วทันที ร่างสูงในลู่ที่ห้าขึ้นนำห่างจากลู่ที่หกเพียงแค่หนึ่งช่วงมือ ขาทั้งสองสับขึ้นลงอย่างไม่ยอมแพ้อย่างน้อยก็ให้ขยับออกไปไกลกว่าแค่เพียงเล็กน้อยก็ยังดี ร่างสูงกลั้นใจเฮือกสุดท้ายถีบน้ำพุ่งตัวไปด้านนำเหนือคนอื่นไปอีกหนึ่งช่วงตัว

สิ้นสุดการแข่งขันเจ้าของรางวัลตกเป็นของร่างสูงลู่ที่ห้าอย่างไม่ต้องสงสัยและที่สองก็ตกเป็นของร่างบางลู่ที่หกไป ร่างสูงยกยิ้มอย่างมีชัยให้กับตัวเองพร้อมกับหันไปมองร่างบางใกล้ๆที่กำลังเหนื่อยหอบจากการว่ายน้ำเสร็จใหม่ๆบวกกับอารมณ์เสียที่พ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับคนเดิมอย่างน่าโมโห

“อย่าสัญญาของเราล่ะ คิมดงฮยอก”

“ฉันลูกผู้ชายพอ กูจุนฮเว”

“ที่เดิม อย่าสายล่ะ”

ภายในห้องพักนักกีฬาที่ปลอดผู้คน ร่างบางสาวเท้าเข้ามาเปิดล็อกเกอร์ของตัวเองวางหยิบผ้าขนหนูสีเข้มและเสื้อผ้าแห้งสำหรับผลัดเปลี่ยนออกมา มือเรียวกำลังจะดึงประตูมาปิดไว้สายตาคมดันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่น่ารำคาญเข้าซะก่อน รอยช้ำสองจุดที่อยู่หลังใบหูขาวและบริเวณท้ายทอยทำให้ดงฮยอกอดจะสบถออกมาไม่ได้ กลายเป็นการคลายข้อสงสัยไปในตัวว่าทำไมเพื่อนที่โรงเรียนถึงได้มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

และอีกเช่นเคยกับห้องอาบน้ำร้างผู้คน กายบางค่อยปลดกางเกงว่ายน้ำเพียงชิ้นเดียวที่ปิดร่างกายส่วนล่างไว้ลงก่อนวางมันไว้ที่ชั้นวางของ ท่อนบนแสดงให้เห็นร่องลึกตามหน้าท้องประกอบกับกล้ามเนื้อที่เรียงตัวอย่างสวยงามน่าลูบไล้เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเพราะมันเป็นตัวเรียกคะแนนจากหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี เท้าเล็กก้าวเข้าไปในห้องด้านในสุดของห้อง

ฝักบัวถูกเกิดให้รดร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สักพัก สัมผัสเย็นๆที่เรียกว่ามือมนุษย์ก็ปรากฏบนหน้าท้อง มือร้ายลูบขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจซ้ำยังกระชับสัมผัสโดยการกระตุกร่างบางเข้าชนกับอกแกร่งของตัวเอง นิ้วซุกซนเลื่อนขึ้นไปสะกิดทักทายกับยอดอกสีชมพู ปากปีศาจคอยปรนเปรอตั้งแต่ลำคอขึ้นไป จูบซับและไล้เลียตั้งแต่คอขาวจนถึงกกหู สัมผัสที่มาโดยไม่ทันตั้งตัวแต่ชินไปแล้วสำหรับดงฮยอกความเอาแต่ใจของกูจุนฮเว ร่างบางหลุดเสียงหน้าอายออกมาเป็นพักๆ การปรนเปรอพร้อมกันทั้งร่างกายแบบนี้ต่อให้ไม่ใช่ดงฮยอก ใครก็ทนไม่ไหวหรอก

และสัมผัสจากร่างกายของจุนฮเวส่วนสุดท้ายก็ปรากฏ

มันคือสิ่งหนึ่งที่กำลังดุนดันช่วงล่างของดงฮยอก

ฝักบัวไม่ได้ถูกปิดแต่อย่างไร ร่างสูงพลิกร่างอีกคนให้มาเผชิญหน้าพร้อมกับดันหลังให้ติดกับผนังเย็นๆอย่างแรงพร้อมกับข้อมือทั้งสองข้างที่ถูกตรึงไว้ข้างศีรษะ สัมผัสและอารมณ์ดิบของจุนฮเวกำลังเริ่มขึ้นและคนที่ต้องทนรับมันคือคิมดงฮยอก รสจูบถูกส่งมาด้วยอารมณ์ร้อนแรงของอีกฝ่าย บดขยี้ริมฝีปากบางจนสัมผัสได้ถึงรสคาวของเลือด สัมผัสที่คอยิ่งทำให้คนใต้อาณัติเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ฟันคมขบกัดลงไปบริเวณกึ่งกลางของซอกคอด้านซ้ายของร่างบางก่อนจะลิ้มรสเลือดกวางน้อยที่ถูกผู้ล่าตะปบกัดด้วยลิ้น ความแสบร้อนเกิดขึ้นทันที มือที่ถูกตรึงแน่นได้แต่กำเข้าหากันแน่นระบายความเจ็บปวดและกัดริมฝีปากล่างตัวเองจนได้แผลเพื่ออดทนกับความอึดอัดที่ก่อขึ้นกลางลำตัว

มือข้างหนึ่งถูกปลดออกจากการบังคับ มือหนาพุ่งเป้าไปที่อวัยวะกลางลำตัว บีบนวดบดคลึงแท่งร้อนจนอีกคนหลุดเสียงออกมา รูดสาวตั้งแต่โคนจนถึงส่วนปลายอย่างช้าๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นการชักรูดขึ้นลงถี่ปลุกอารมณ์คนตรงหน้าให้ตอบสนอง มือบางข้างที่เป็นอิสระเอื้อมมือไปขยำกลุ่มผมสีบรอนด์โดยไม่ต้องออกคำสั่ง สัมผัสวาบหวามและร้อนแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกันเรียกเสียงหวานออกมาจากปากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี แต่จู่ๆคนตัวสูงขี้แกล้งก็หยุดการกระทำลง ร่างบางที่เหนื่อยหอบจากกิจกรรมที่ยังไม่สำเร็จเมื่อครู่ปรือตามองด้วยความสงสัย สุดท้ายความสงสัยได้คลายออกไปแต่กลับมีความตกใจและความกลัวเข้ามาแทนที่เมื่อเสียงแหบกระซิบข้างหูเบาๆ

“ฉันอยากแกล้งนาย”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงนิ้วเย็นทั้งนิ้วถูกสอดเข้ามาที่ช่องทางหลังทันที เสียงหวีดร้องจากร่างบางนับเป็นความสุขอย่างหนึ่งของกูจุนฮเวแต่จะดีกว่านี้ถ้า...

“เรียกชื่อฉันสิดงฮยอก” ถ้าได้เขาได้ยินชื่อเขาจากปากของคนตรงหน้า

นิ้วที่สองถูกใส่เพิ่มเข้าไปอย่างเลือดเย็น จุนฮเวตอนนี้เป็นดังมัจจุราชจะทำอะไรเขาตอนไหนก็ได้หากไม่พอใจ สองนิ้วใหญ่ขยับเข้าออกด้วยจังหวะที่ช้าจนหน้าโมโห แต่ยังไม่ทันจะนึกอะไรไปได้มากกว่านี้นิ้วที่สามก็ถูกสอดเพิ่มเข้ามาอีกครั้ง เมื่อช่องทางที่ร่างสูงเบิกทางเตรียมไว้พร้อมดีแล้ว จุนฮเวจัดการยกขาคนตรงหน้าขึ้นเกี่ยวเอวสอบทั้งสองข้าง เบียดส่วนหัวของแท่งร้อนตัวเองเข้าที่ช่องทางหลังแล้วค่อยๆดันมันเข้าไปราวกับถนอมร่างคนตรงหน้าทั้งที่เมื่อครู่แทบจะฆ่าร่างบางให้ตายทั้งเป็น

เสียงซี้ดปากจากจุนฮเวเกิดขึ้นเมื่อแท่งร้อนทั้งแท่งเข้าไปในตัวอีกคนจนสุดลำ ความคับแน่นของร่างบางทำให้จุนฮเวขยับเอวเข้าออกด้วยความลำบาก จังหวะขยับเข้าออกของร่างสูงยังคงทำหน้าที่ได้ดีเหมือนกับการตอบสนองร่างกายของดงฮยอกด้วยการตอดรัด ปากหนาคอยบดจูบอ่อนโยนส่งไปให้คนตรงหน้า บ่าไหล่ที่คอยรองรับความเสียวซ่านจากเล็บคมที่จิกลง ร่างสูงผละออกจากปากรสหวานดังเค้กนุ่มละมุนลิ้นไปอย่างน่าเสียดายแล้วให้ความสนใจกับซอกคอสีขาวดังหิมะแทน จูบดูดุนประทับตรารอยรักลงไปหลายตำแหน่งเพื่อให้รู้ว่าคนนี้มีเจ้าของ เสียงครางที่ออกมาพร้อมกับชื่อของร่างสูงนั้นยิ่งทำให้จุนฮเวคลั่งคนตรงหน้าเข้าไปใหญ่ มือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายบางที่บีบส่วนใดที่ตรงนั้นก็มีรอยแดงฝากไว้เสมอ การกระแทกสะโพกซ้ำๆย้ำถี่เพื่อบอกความต้องการของตนเองที่ใกล้เข้ามาถึง มือบางคว้าแท่งร้อนที่ไม่ได้ปลดปล่อยรูดขึ้นลงซ้ำๆและรวดเร็วจนสุดท้ายน้ำคาวสีขุ่นก็ออกมากเลอะมือพร้อมกับแรงกระแทกสุดท้ายที่มาพร้อมกับน้ำสีขุ่นของจุนฮเวที่ฉีดเข้าไปในร่างกายดงฮยอกจนล้นทะลักออกมาเช่นกัน และเสียงหวีดครางพร้อมกับเสียงครางต่ำที่เกิดขึ้นและเงียบลงไปเหลือเสียงหอบจนตัวโยนจากดงฮยอกเข้ามาแทนที่แข่งกับเสียงฝักบัวที่ถูกเปิดทิ้งไว้แทน

“ไปอดอยากอดตายที่ไหนมา”

“เปล่านี่ เมื่อคืนก็ยั- โอ๊ย!” อดจะฟาดมือเล็กลงไปไม่ได้เพราะคนขี้แกล้งพูดถึงเรื่องเมื่อคืน

ก็เมื่อคืนเข้าก็เพิ่งมีอะไรกับจุนฮเวเหมือนกัน...

เพราะงั้นเขาเลยแพ้จุนฮเววันนี้ยังไงล่ะ!!

ถ้าพรุ่งนี้แพ้ ต้องให้ฉันลงโทษ ตกลงนะ

ได้เลยกูจุนฮเว ฉันจะไม่แพ้นายเด็ดขาดแค่นั้นแหละ ไอ้บ้านี่มันก็มอมเหล้าเขาแล้วก็พาทำเรื่องอย่างว่า ได้ที่สองก็ดีแล้วคิมดงฮยอก

“เอาน่า เดี๋ยวสอนเอง”

“คราวที่แล้วก็พูดแบบนี้ ก็ไม่สอนสักที นายก็หลอกฉันมาทำแบบนี้ตลอด” ปากบางยู่ลงเมื่อสิ้นประโยค จุนฮเวมันคนเจ้าเล่ห์!

“ก็นี่แหละสอน อันดับนายก็ดีขึ้นเรื่อยๆไม่ใช่หรือไง” อีกคนกลับตอบมาหน้าตายทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ถึงจุนฮเวจะไม่อาย แต่ดงฮยอกอายนะเว้ย!!

“พอแล้ว จะไปเรียนกับคนอื่น ไม่เรียนกับจุนฮเวแล้ว”

“กล้าก็ลองสิดงฮยอก แฟนนายโหดมากไม่รู้หรือไง”

“แต่นายก็กลัวฉันอยู่ดีใช่มั้ยล่ะ นอนข้างนอกละกันคืนนี้ เหอะ!” พูดจบก็สะบัดตัวเดินออกจากห้องน้ำไปไม่รอคนที่อ้าปากข้างในห้องน้ำทันที


“ไม่เอานะดงดงจ๋า ให้จุนเน่นอนด้วยนะ จุนเน่จะไม่แกล้งอีกแล้ววว~~



จบเถอะ...


อย่าลืมสกรีมที่แท็ก #ติวพละกับจุนฮเว เยอะๆนะคะ ไรท์รออ่านอยู่นะคะ หนึ่งสกรีมหนึ่งกำลังส่งต่อถึงเรื่องราวต่อไปของบีจินเลยจ้า

อยากอ่านบีจินไวๆก็สกรีมเข้ามาเยอะๆนะคะ

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

#ติวชีวะกับบ๊อบบี้




“เอาล่ะ วันนี้ไว้แค่นี้ คลาสหน้าเราจะสอบ อ่านหนังสือมาเยอะๆนะ” แทบจะยังไม่สิ้นเสียงอาจารย์ประจำวิชาชีววิทยาเสียงโห่ร้องของเหล่านักเรียนก็แทรกขึ้นมาก่อน ขึ้นชื่อว่าการสอบ ใครจะไปชอบ ไม่ว่าจะสอบย่อย สอบใหญ่ สอบกลางภาค สอบปลายภาค ห่าเหวอะไรก็ช่าง...

ยุนฮยองคือหนึ่งในนั้น

“ไปติวกันมั้ยยุนฮยอง?” เพื่อนตัวเล็กที่ส่วนสูงไม่รู้จะถึงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรึเปล่าสะกิดไหล่บางพร้อมกับส่งคำถามมาให้เขา “เอ่อ.. ไม่ดีกว่า ขอบคุณนะ” และร่างโปร่งเลือกที่จะปฏิเสธออกไปตามที่คิดว่าคงเสียน้ำใจน้อยที่สุดแล้ว

“ติวกันหลายคนนะ น่าสนุกจะตาย ไม่ไปจริงๆหรอ?” คนตัวเล็กยังคงชวนอีก

“ไม่เป็นไรจริงๆ ขอบคุณที่ชวนนะ ฉันต้องไปแล้วล่ะ” ยุนฮยองเอ่ยอีกครั้งระหว่างที่กวาดข้าวของบนโต๊ะใส่กระเป๋าแล้วสะพายขึ้นหลัง “ไว้เจอกันนะ” และเอ่ยคำบอกลาอีกฝ่ายก่อนจะเดินออกห้องไป

ทำไมถึงปฏิเสธหรอ?

ก็ยุนฮยองมีคนพิเศษจะติวให้แล้วนี่นา

B.O2BY
มาได้เลยนะ

นั่นไง...พูดถึงก็มาเลย

Prince>Song
อื้อ กำลังจะไปแล้ว

สอบผ่านแหงๆ




ก๊อกๆ!

“มาแล้วหรอ? เข้ามาสิ” ใบหน้าร่างสูงที่โผล่พ้นประตูออกมาเพียงเล็กน้อยเปิดประตูต้อนรับแขกประจำที่จะมาที่ห้องบ่อยในช่วงสอบให้เข้ามาภายในห้อง

ห้องชุดขนาดพอดีไม่เล็กจนแอดอัดและไม่ใหญ่จนรู้สึกโดดเดี่ยว กลางห้องนั่งเล่นมีโต๊ะญี่ปุ่นขนาดกลางพร้อมกับอุปกรณ์การเรียนมากมายเตรียมกับการเป็นคุณครูจำเป็น “นั่งรอเลย ฉันขอเตรียมของแปปเดียว”

“อื้อ” รับคำร่างสูงเสร็จสรรพก็มานั่งจุมปุ๊กอยู่ที่โต๊ะกลาง หยิบเอาชีทที่เรียนทั้งหมดมากองไว้บนโต๊ะแล้วก็เท้าคางรอคุณครูไปพลางๆ

“มาแล้ว เริ่มกันเลยดีกว่า”ร่างสูงนั่งลงข้างกายแล้วเริ่มอธิบายเนื้อหาที่ใช้สอบทั้งหมด แต่มันดันไม่เข้าสมองยุนฮยองสักนิด เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ยิ่งฟังไปนานๆเสียงคนตรงหน้าก็เหมือนกลับกล่อมให้หลับ...

“เข้าใจรึยัง?” ไม่เข้าใจ - -

“อือ เข้าใจแล้ว ทำไมนายสอนดูเข้าใจง่ายกว่าครูนั่นอีก” ยุนฮยองโกหก ไม่เข้าหัวเลยสักนิดต่างหาก

“เข้าใจก็ดี วันนี้ฉันจะลองทดสอบนาย”

“ห้ะ?” ทดสอบบ้าบออะไร ตั้งแต่ที่เคยติวกันมาเคยมีซะที่ไหนล่ะ

“จะได้รู้ไงว่านายเข้าใจจริงหรือเปล่า” จีวอนพูดพลางเก็บข้าวของ

“ก็ได้” ร่างโปร่งจำใจตอบรับไปอย่างเซ็งๆ ดูก็รู้ว่าเขาเกลียดการสอบแค่ไหน

“เริ่มเลยนะ”

!!!” สิ้นเสียงแหบห้าว ร่างหนาพุ่งเข้าจู่โจมริมฝีปากสีเชอรี่ทันที มือหนาเลื่อนขึ้นประคองใบหน้าได้รูปช้าๆก่อนจะบดจูบให้ราวกับจะขยี้ให้ปากเขาช้ำ น่าแปลกกว่าคือคนที่โดนจู่โจมกลับไม่ตอบโต้อะไรจนกระทั่ง...

“อ๊ะ!

นิ้วเย็นที่สัมผัสยอดอกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ร่างสูงผละออกจากริมฝีปากน่ากินอย่างน่าเสียดายพร้อมกับคำถาม “เส้นใยประสานงานมีลักษณะอย่างไร”

ถามบ้าอะไรวะ?

นิ้วเรียวยังคงทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่องทั้งสะกิด เขี่ย บีบ ขยี้ ทุกอย่างที่แทบจะทำให้ยุนฮยองอยากจะสลายหายไปซะเดี๋ยวนี้ “ไม่..จัดเป็นเซลล์ อ๊ะ ประสาทเป็นเพียง อื้อ เส้นใยที่เชื่อมกับ อ๊า โคนของเส้นขนซิเลีย”

คำตอบของร่างบางที่มาพร้อมกับเสียงหน้าอายเป็นช่วงๆพร้อมกับอาการที่เหมือนหายใจไม่ทันทำให้บ๊อบบี้ยิ่งอยากแกล้งคนตรงหน้าเข้าไปอีก “ไหนยกตัวอย่างมาสิ” พร้อมกับก้มลงไปครอบครองยอดอกสีหวานด้วยปาก ดูดเม้มโลมเลียอย่างเอาแต่ใจจนอีกคนลืมคำถามไปครู่หนึ่งและแอ่นอกตอบรับสัมผัสเย็นชื้นจากอีกคนแทน “พบใน อื้ออ โปรตัวซัวพวก อ๊ะ บ๊อบบี้”

“เสียใจยุนฮยอง ไม่มีโปรตัวซัวประเภทบ๊อบบี้ นายต้องโดนลงโทษ” ร่างสูงถอดเสื้อยุนฮยองออก ก้มลงประทับริมฝีปากบริเวณลาดไหล่ดูดดุนสร้างรอยรักสีกุหลาบจนพอใจแล้วผละออก “รอยพวกนี้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนรอยที่นายตอบผิด อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะยุนฮยอง ตอนที่ติวกันเมื่อกี้นายไม่ได้ฟังฉันเลย” ยิ่งทำให้ร่างโปร่งรู้สึกผิดไปอีกเมื่ออีกฝ่ายพูดออกมา

“ขอโทษ”

“ฉันให้อภัย แต่ตามข้อตกลง ผิดหนึ่งข้อคิสมาร์คหนึ่งรอย” ตกลงกันตอนไหน? ถามกันยังบ๊อบ? “เซลล์ประสาทขั้วเดียวทำหน้าที่อะไร” คิมจีวอนซุกไซร้ซอกคอขาวทันทีที่ถามคำถามจบ ยิ่งจมูกโด่งซุกซนไปทั่วยุนฮยองยิ่งแทบจะหายใจไม่ทัน ความรู้สึกแปลกๆก่อตัวขึ้น ลมหายใจหอบถี่และเสียงร้องไม่เป็นภาษาที่ออกมาแทบจะทำให้บ๊อบบี้คลั่งตายเสียให้ได้  แน่นอนว่ายุนฮยองรู้คำตอบข้อนี้ และเขามั่นใจมากกว่าหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันต้องถูก “รับรู้หรือ อื้อ นำคำสั่ง อ๊ะ จากอวัยวะ อ๊าา รับสัมผัสเข้าสู่ระบบประสาท อื้มม ส่วนกลาง”

“เก่งมากคนดี ฉันจะให้รางวัลนายนะยุนฮยอง” ไวเท่าความคิดกางเกงกีฬาขาสั้นของยุนฮยองก็ร่วงลงไปอยู่ที่ข้อเท้าพร้อมกับชั้นในสีเข้ม ส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนเด้งตัวออกมาราวกับว่าถูกขังอยู่ในที่แคบเป็นเวลานาน มือหนากอบกุมส่วนนั้นไว้แล้วสาวรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ แต่คงจะไม่ทันใจคนตัวบางเท่าไหร่นัก

“ระ เร็ว เร็วหน่อยสิบ๊อบบี้” มือเรียวจิกลงที่ลาดไหล่อย่างแรงเมื่อคุณครูขี้แกล้งกำลังใช้นิ้วหยอกล้อกับส่วนปลายแท่งร้อนของเขา ปากบางทีขบกัดโดยอัติโนมัติเป็นเวลานานจนเลือดห้อ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความอึดอัดช่วงล่างแต่บ๊อบบี้กลับมองว่าคนตัวเล็กตรงหน้าช่างยั่วใจเขาเหลือเกิน มือหนาขยับรูดแท่งร้อนเร็วขึ้นจนมีน้ำซึมออกมาที่ส่วนปลาย และขยับอีกสองสามครั้งน้ำคาวสีขุ่นก็ออกมาจากร่างกายคนตัวเล็ก

กายบางหอบจนตัวโยนเมื่อปลดปล่อยความอึกอัดได้สำเร็จ แต่คิดว่าบ๊อบบี้จะหยุดเพียงเท่านี้หรอ? ไม่มีทาง

ก็เขายังไม่ได้ปล่อยออกมาสักครั้งเลยนะ

ร่างสูงอุ้มเจ้าชายของโรงเรียนตรงไปยังห้องนอน เสียงหอบหายใจที่ดังอยู่ข้างหูนั้นเหมือนกับเพลงอะครูสติกสำหรับบ๊อบบี้ ยได้ฟังเพียงหนึ่งครั้งก็ยิ่งอยากฟังอีกลายๆครั้ง

เขาเสพติดยุนฮยอง

“โอ๊ย!” นิ้วยาวที่สอดเข้าที่ช่องทางหลังโดยไม่ทันตั้งตัวของร่างโปร่ง เสียงหวีดร้องดังขึ้นทัน บ๊อบบี้คงไม่ได้สนใจ ร่างกายยุนฮยองตอบสนองโดยการตอดรัดนิ้วของแน่นจนแทบจะแตกหายไป คงจะดีกว่าแน่ๆถ้าเอาของๆเขาใส่เข้าไป

นิ้วที่สองถูกสอดเพิ่มเข้าไปที่เดิม การตอบสนองของยุนฮยองยังคงเหมือนเดิม ตอดรัดแน่นเสียจนแทบบ้า สองนิ้วยาวขยับเข้าออกช้าๆจนช่องทางเริ่มปรับตัวได้นิ้วที่สามถูกแทรกเข้าไปทันที ขนาดของช่องทางหลังขยายมากขึ้นจนบ๊อบบี้รู้สึกว่ามันพร้อม เขาถอนนิ้วออกก่อนจะยกขาเรียวเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ แล้วกดส่วนหัวของแท่งร้อนที่ใหญ่และแข็งขืนเข้าไป ไร้ซึ่งบทสนทนา เพียงสอดเข้าไปได้แค่ส่วนหัวยุนฮยองกรีดร้องออกมาดังโดนเข็มทิ่มแทงร่างกาย

ก็เข็มนั่นแหละยุนฮยอง

แต่ใหญ่กว่าปกตินิดเดียว...

เสียงครางต่ำของบ๊อบหลุดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แรงตอดรัดของยุนฮยองมันทำให้เขารู้สึกดี ขยับเอวกดลงไปทีละนิดจนสุด แล้วเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ เสียงหวานครางออกมาไม่มีหยุดพัก ใบหน้าเจ้าตัวเชิดขึ้นพร้อมกับเหงื่อที่ผุดพรายตามโครงหน้าได้รูป ร่างสูงส่งมือหนาลงบดขยี้ยอดอกที่ชูชันแข็งสู้มือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จังหวะขยับของเอวเริ่มถี่ขึ้นเมื่อความอึดอัดใกล้จะปล่อยออกมา มือบางเลื่อนลงไปคว้าส่วนอ่อนไหวที่กลับมาแข็งขืนอีกครั้งแล้วสาวรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ปากสีเชอร์รี่ถูกฟันขบกัดจนแทบจะไม่เห็นสีชมพู ไหนจะเสียงครางที่หลุดมาเป็นระยะ สภาพยุนฮยองตอนนี้บ๊อบบี้พูดได้เลยว่าโคตรจะเซ็กซี่

“เรียกชื่อฉันสิยุนฮยอง” เสียงห้าวเอ่ยคำสั่งออกมา

“จีวอนนา... จีวอนนา..”

“พร้อมกันนะคนดี” ร่างสูงขยับเอวเข้าออกด้วยความถี่ที่มาก กระตุกเกร็งสองสามครั้งก็ปล่อยของเหลวสีขุ่นเข้าตัวยุนฮยอง และปริมาณที่มีมากทำให้ของเหลวนั้นไหลย้อนออกมาตามซอกขาเรียว ทางด้านยุนฮยองก็ปล่อยออกของเหลวออกเลอะหน้าท้องบางเช่นกันก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากกิจกรรม

ร่างสูงล้มตัวนอนข้างกายเล็กพลางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายบางไว้ให้ความอุ่น มือซนคว้าเอวบางเข้ามาชิดตัวก่อนจะกระซิบเบาๆข้างหู

“สอบได้ที่หนึ่งแน่ๆ ซงยุนฮยอง ฝันดีนะครับคนเก่ง” รู้ทั้งรู้ว่าคนข้างกายคงไม่มีสติที่จะรับรู้แน่แต่บ๊อบบี้ก็ยังคงอยากจะพูดมันออกไป




“รักนะครับ นักเรียนของผม”